Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
/////////// ความฝันของผม "รถคนไทย" /////////// vote ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตเล่าเรื่องตัวผมเองแบบย่อๆนะครับ

เป็นลูกจ้าง...........
เมื่อ 3 ปีที่แล้วผมทำงานบริษัท แห่งนึงที่ระยอง ผมทำงานภายใต้สัญญาเป็น Sub
เป็นเวลา 6 เดือน ตอนได้งานก็ดีใจมาก ที่ได้งานที่นี่เพราะเงินดี ทำงานที่นี่รู้สึกดีมาก
กับบรรยากาศ การทำงาน เป็นโรงงานฝรั่ง อยู่กันแบบพี่น้อง ทั้งโรงงานแทบจะรู้จักกันหมด
เนื่องจากพนักงานแทบจะไม่มีใครออก (อยู่กันจนแก่) ทำให้ตั้งแต่พนักงงานฝ่ายผลิต ยัน
ผู้บริหารรู้จักกันหมด ให้อิสระแก่พนักงาน จะพักตอนไหนก็ได้ แต่ต้องไม่เสียงาน
ผมเลยมีความคิดว่าถ้าผมมีบริษัทเป็นของตนเองก็จะทำอย่าง ที่นี่ คิดถึงพนักงานเป็นสำคัญ
แล้วพนักงานก็จะทำงานให้บริษัทอย่างเต็มที่ เรียกว่าถวายหัวเลย รวมถึงผมด้วย
หลังจากทำงานครบสัญญา 6 เดือน หัวหน้างานผมก็ต่อสัญญาอีก 6 เดือน พวกพี่ในแผนก
ก็ลุ้นให้ผมได้บรรจุ แต่ก็ต้องรอให้หมดสัญญาก่อน
หลังจากที่ต่อสัญญาผมทำงานได้ซักพัก ก็เริ่มมีข่าวทางโรงงานจะปลดพนักงาน เนื่องจาก
โรงงานไม่มีออร์เดอร์ ผมก็เสียวสันหลังวาบ โดนแน่กู แต่แล้วสุดท้ายทางโรงงานก็ปลด
ตัวใหญ่ออก เพื่อรักษาตัวเล็ก เอาไว้ นั้นรวมถึงหัวหน้าแผนกผมด้วย สุดท้ายเค้าก็ดึงคน
แผนกอื่นมา ดูที่แผนกผม .....หลังจากนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไป พวกพี่ในแผนกเริ่มลาออก
กันไปทีละคนสองคน จนเหลือคนเก่าแค่ 3 คน ครั้นถึงเวลาหมดสัญญาอีกครั้ง ผมก็เริ่มรู้
ชะตากรรม วันที่สัญญาหมดหัวหน้าคนใหม่ก็ไม่เรียกผมไปคุยเพื่อต่อสัญญา ก็เป็นอันรู้ว่า
ผมคงต้องออกจากที่นี่
ระหว่างผมอยู่ที่นี่ได้ออกแบบรถยนต์ของผมเอาไว้ เคยลองที่ Pantip ไว้ทีนี้
ตอนนี้ก็คิดว่ามันคงเป็นไปได้ยากมาก


ตั้งจุดหมาย...................
ผมออกจากที่นั่นมาได้ประมาณ 4 เดือน ก็คิดที่เปิดบริษัทออกแบบเครื่องจักร จาก
ประสบการณ์การทำงาน เรียกได้ว่าน้อยมาก ตอนนั้นผมอายุ 25 ปี ผมเพียงคิดว่าเดี๋ยว
ประสบการณ์ไปหาเอาข้างหน้าเลย ผมเป็นคนคิดใหญ่ จนบางครั้ง คนที่ฟังผมพูด เค้าก็คงไม่เชื่อ
แต่ผมเชื่อ...... ผมมีเป้าหมาย ชีวิต ทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกก็คือ อายุ 30 ผมต้องมีเงิน
พันล้าน อายุ 40 ผมจะปลดเกษียนตัวเอง ทำให้พ่อ แม่ พี่สาว ลูกสาวและแฟนผมอยู่อย่างสบาย
ส่วนในทางธรรม ผมขอบรรลุธรรมโสดาบันก่อนผมตาย บั้นปลายชีวิตให้คนรอบตัวสบาย ผมคง
ออกบวช


เปิดบริษัท...................
หลังจากที่คิด เวลานั้นไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ที่จะเปิดบริษัท พยายามหาเงินให้ได้ซักหมื่น
เพื่อจดทะเบียนบริษัท และขอเลขหมายโทรศัพท์ แต่ก็ยังหาไม่ได้ และแล้ววันนึงผมก็ได้ไปติดต่อ
ขอดูที่ทำออฟฟฟิศ ซึ่งเป็นที่ผมเคยทำงานเขียนแบบอยู่ เป็นโรงกลึงเล็ก ที่เค้าเลิกกิจจการไปแล้ว
เลยไปลองติดต่อดู เผื่อได้ราคาพิเศษ อนาคตเผื่อกิจการดีจะได้มาเช่าอยู่ แต่แล้วมันก็เกินคาดหมาย
เค้าจะร่วมลงทุนกับผมด้วย ให้มาเช่าที่นี่ได้เลย คนนี้มีบุญคุณกับผมมาก เป็นอันว่าผมได้ก้าวกระโดดไป
อาจเป็นเพราะการที่ผมปฏิบัติธรรม อยู่เป็นประจำ
หลังจากนั้นผมก็ เปิดบริษัทขึ้นทำเองหมดทุกอย่างตั้งแต่ ตั้งชื่อบริษัท ออกแบบโลโก้ ออกแบบ
เอกสาร พิมพ์นามบัตรเอง เรียกว่าทำเองทุกอย่าง ออกหางานตามโรงงาน มีคนในบริษัทพียง 3 คน
คือหลาน แฟน และตัวผมเอง
งานแรก ได้จากคนรู้จักกันแนะนำเป็นงาน ออกแบบอาคารพานิชย์ งานนี้ใช้เวลาออกแบบ
ประมาณ 1 สัปดาห์ กำหนดส่งงานผมเป็นคนกำหนดเนื่องจากผู้จ้างบอกเป็นงานด่วน ผมเลยต้องจ้าง
เพื่อนของหลานมาช่วยด้วย ผมให้กำหนดหลานและเพื่อนเค้า แค่ 3 วัน ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะแบบที่
ได้มาผมต้องตรวจ และอาจต้องมีการแก้ไข.... และแล้วงานก็เสร็จก่อนวันส่งมอบงาน 1 วัน
วันต่อมาเจ้าของงานเค้ามารับงานผมก็ดตรียมให้พร้อมไลท์ใส่ ซีดีให้ด้วย เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าจะเบิก
เงินเจ้าของโครงการมาให้.....แต่แล้วก็หายไป 1 สัปดาห์ ผมเลยโทรตามปรากฏว่าเค้าบอกเดี๋ยวอาทิตย์
หน้าเอาไปให้ แต่เค้าก็หายไปเหมือนเดิม เป็นอันว่าโดนโกงไป งานแรกแท้ๆ
หลังจากนั้น ผมก็ทำงานไปเรื่อยแต่งานก็น้อยมาก เงินทุนก็หมดลงไปเรื่อยๆ งานส่วนใหญ่จะถูก
ชักดาบ จากคนที่รู้จักกันซะส่วนใหญ่ สุดท้ายผมทำเรื่องกู้เงิน SME Bank เพื่อต่อลมหายใจบริษัท
แต่ตอนผมส่งเอกสาร พี่ที่ธนาคารบอกว่าหมดโครงการนี้แล้ว ต้องรองบประมาณหน้า อีก 2 เดือน
เหมือนฝันสลาย เงินต่างๆผมดึงมาเพื่อรักษาเครดิต ในการกู้เงิน ต่อจากนี้คงต้องปล่อยไป ปัจุบันเครดิต
ผมเสียไปเรียบร้อยแล้ว ค่างวดรถเค้าก็ตามยึดแล้ว แต่ก็อย่างนี้ครับชีวิตเรา มันอนิจจังไม่เที่ยง มีโอกาสที่ดี
มาวันนี้เสียหมดทุกอย่าง แต่ก็มีขอ้ดีนะครับ ผมได้กลับมาศึกษาธรรมะอย่าจริงจังอีกครั้ง ได้เห็นทุกสิ่งอย่าง
มันแสดงอนิจจังให้เห็น ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ เป็นของยืมใช้ทั้งสิ้น บังคับให้เป็นอย่างใจไม่ได้ เราทำได้แค่
ทำเหตุ ผลจะเป็นอย่างอย่างไรก็เรื่องของมัน วันนี้มันก็แค่ท้องฟ้าปิด แต่ฟ้ามันก็ไม่ได้ปิดไปตลอด วันที่ฟ้าสวยงาม
มันจะต้องมีมาอีกครั้ง ผมเชื่อ..............



...........เมื่อวานผมค้นของในห้อง ก็ได้เจอแบบที่ผมเคยออกแบบไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

สิ่งที่ผมคิดนี้มันอาจเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ว่าถ้าไม่มีคนคิดจะทำ ท้อตั้งแต่เริ่มคิดความฝันเหล่านั้นคงไม่
เกิดขึ้นได้เลย

ผมเอาแบบไปให้แม่ดู แม่ก็บอก บ้าไปแล้ว 55 แต่ผมว่ามันก็จริงนะ แต่ถ้าทำได้มันก็จะเปลี่ยนชีวิต
ของผมและใครหลายๆคน คนที่จะซื้อมอไซต์ ก็มาซื้อรถคนนี้ คุณภาพชีวิตเค้าจะดีขึ้น ฝนตกก็ไม่เปียก
แดดออกก็ไม่ร้อน เกิดอุบัติเหตุก็จะบาดเจ็บน้อย ซึ่งราคาให้ถูกที่สุด อาจจะไม่ถึงแสน


Steb1
จะลองทำดู ตั้งใจจะทำต้นแบบโดยซื้อ โครงสร้างของรถ MIRA มาลองทำดู
โดยบอดี้ข้างนอกคงใช้ พลาสติก ABS หล่อขึ้นมาโดยใช้ เหมือนกับที่เค้าทำพวก
สปอยเลอร์ อะไรบอกนี้ก่อน คงไม่มีเงินทุนจะซื้อเครื่องปั้มขนาดใหญ่มา
ถ้าได้รถต้นแบบแล้วคงจะเสนอเพื่อของทุนได้


กลุ่มเป้าหมายของผมคงเป็น
- คนที่ต้องการรถยนต์ แต่เงินน้อย จะซื้อมอไซต์ ก็ไม่ปลอดภัย
- นักศึกษา ที่ต้องการ รถยนต์ ขับไปวิทยาลัย
- แม่บ้านที่ต้องการ ไปซื้อของ หรือรับลูกที่โรงเรียน


แต่รถผมนั่งได้แค่สองคนนะครับ
ยี่ห้อ XEFORCE (ชื่อบริษัทผมเอง) รุ่น Candy (อันนี้มีให้เลือก 8 สี )


ถ้าความฝันผมเป็นจริงนะ
..........................................

/////// รถยนต์ของไทย ราคาแค่ 98,000 เป็นไปได้ไหม //////

ถ้าความฝันผมเป็นจริงอย่าลืมอุดหนุนนะครับ

จากคุณ : xeforce
เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 21:57:01 A:171.100.235.228 X: TicketID:385133




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys 
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com