Box Office สุดสัปดาห์ที่ 4 - 6 ธันวาคม 2541
| สัปดาห์นี้ก็เข้าสู่สุดสัปดาห์ปกติ หลังจากที่เทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าผ่านพ้นไป รายได้ของหนังในตาราง Box Office ก็เลยลดลงฮวบฮาบ แต่ก็ไม่แปลกเพราะคิดรายได้เพียง 3 วัน ต่างจากสัปดาห์ที่แล้วที่คิดจากฐาน 5 วันหยุดยาว สุดสัปดาห์นี้ อันดับหนึ่งยังคงเป็นของA Bug's Life เช่นเคย เป็นการครองตำแหน่งอันดับหนึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยทำเงินไปได้อีก $17.1M หลังจากฉายมา 12 วันทำรายได้ไปแล้วถึง $68.7M ลดลง 48% เมื่อเทียบกับหนังของดิสนี่ย์แชมป์เทศกาลนี้ เมื่อปี 1997 Flubber และปี 1996101 Dalmatians ลดลง 58% ซึ่งก็นับว่าสมเหตุสมผลดี เมื่อคิดตัวเลขจาการฉาย 12 วันเท่ากับปีก่อนๆก็ยังทำรายได้แซงFlubber ไป 38% (รายได้รวม $93M) และนำหน้า 101 Dalmatians ไป 8% (รายได้รวม $136M) เท่านั้นยังไม่พอ.. เมื่อเทียบผลงานกับหนังเรื่องที่แล้วของทีมสร้างคู่นี้Toy Story เมื่อปี 1995 ก็ยังแซงรายได้ที่ทำไว้ 6% ทั้งที่ Toy Story ทำรายได้ลดลงในสัปดาห์ที่สองแค่ 31% เท่านั้นเอง (รายได้รวม $192M) มีแนวโน้มว่าจะไปถึงจุดที่รุ่นพี่เคยทำไว้อย่างแน่นอน สัปดาห์หน้าคงทำเงินแซงหน้าคู่แข่งAntz ของค่าย DreamWorks และผ่านหลัก $100M ประมาณช่วงคริสต์มาสที่จะมาถึง อันดับ 2 Psycho หนัง remake โดย Universal Pictures จากต้นฉบับหนังเขย่าขวัญสุดคลาสสิกของ Alfred Hitchcock เมื่อปี 1960 ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar ไป 4 รางวัล รวมทั้งรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และดาราสมทบหญิง แต่พลาดทั้งหมด ไปได้รางวัล Golden Globe Award หรือลูกโลกทองคำติดมือไป 1 ตัวจากฝีมือของ Janet Leigh ซึ่งเป็นแม่ของ Jamie Lee Curtis ดาราสาวที่โด่งดังมาจากหนังเขย่าขวัญHalloween นั่นเอง, Psycho เวอร์ชั่น 1998 นี้ทำเงินอย่างอ่อนแรงได้ไปแค่ $10.0M จากการเปิดฉายสัปดาห์แรก 2,478 โรง เฉลี่ยแค่ $4,050 ต่อโรง หนังเรื่องนี้รับบทเจ้าของโรงแรม Norman Bates โดย Vince Vaughn (บทนี้เคยเล่นโดย Anthony Perkins), บทเหยื่อสาวในฉากอมตะโดย Anne Heche, ร่วมด้วย William H. Macy, Julianne Moore, Viggo Mortensen กำกับโดย Gus Van Sant (Good Will Hunting, To Die For) โดยทำตามต้นฉบับแบบทุกฉากทุกตอน (shot-ต่อ-shot) ลงทุนสร้างไปทั้งสิ้นประมาณ $25M หนังเรื่องก่อนหน้าของ Hitchcock ที่ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ก็คือ Dial M For Murder ซึ่งกลายมาเป็น A Perfect Murder โดย Warner Bros. ที่เพิ่งจะผ่านสายตาไปไม่นานนี้ หนังของ Will Smith, Enemy of the State จากค่าย Buena Vista ยังแรงดี สามารถเกาะติดอันดับ 3 ได้อย่างเหนียวแน่น ได้ไปอีก $9.67M รวมแล้ว ฉาย 17 วันเก็บไป $62.8M การไปถึงหลัก $100M ก็อยู่ไม่เกินสิทธิ์ที่จะหวัง และเมื่อถึงวันนั้น หนังเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 4 ของผู้อำนวยการสร้าง Jerry Bruckheimer ตามหลังThe Rock,Con Air, และ Armageddon ส่วนหนังการ์ตูน The Rugrats Movie ของค่าย Paramount จากทุนสร้างแค่ $25M ร่วงจากอันดับ 2 มาที่ 4 ทำรายได้ไปอีก $7.6M ลดลง 64% ทำเงินไปแล้ว $67.5M จากการฉาย 17 วัน แต่มีแนวโน้มว่าแรงจะหมดเสียแล้ว แต่ก็น่าจะไปได้ถึงหลัก $80-90M แค่นี้ก็กำไรเละแล้ว อันดับ 5 เป็นหนังตลก The Waterboy ของพระเอก Adam Sandler จากค่าย Buena Vista ตกลงมาจากอันดับ 4 ได้ไปอีก $6.5M ลดลง 52% จากสุดสัปดาห์ก่อน ตอนนี้กวาดไปแล้ว $130.7M หลังจากฉายมาหนึ่งเดือน กว่าจะออกจากโปรแกรมก็คงเก็บเงินไปประมาณ $145-155M รวมๆกันแล้ว ค่าย Disney ก็กวาดไป สามจากห้าอันดับแรกในตาราง Box Office เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา อันดับ 6 Meet Joe Black หนังของค่าย Universal คงที่จากสุดสัปดาห์ก่อน หนังโรแมนติกนำโดย Brad Pitt, Anthony Hopkins รายได้ลดลง 58% ได้ไปอีก $2.4M รวมแล้วเก็บเงินไปได้ $39.2M ขณะนี้กลายเป็นหนังรายได้สูงสุดประจำปีนี้ของค่ายนี้ไปแล้ว แซงหน้าPrimary Colors ที่ได้ $39M ไปอย่างเฉียดฉิว ส่วนอันดับ 7 เป็นหนังจากค่ายเดียวกันBabe: Pig in the City เป็นการฉายสัปดาห์ที่สอง ได้ไปอีก $2.37M ลดลง 62% ตอนนี้ได้ไปแค่ $11.4M หลังจากฉายมา 12 วัน คงจะไปได้แค่หลัก $20M ทั้งที่ลงทุนไปประมาณ $80M รวมสองเรื่องนี้ Universal ลงทุนไป $170M เล่นเอาผู้บริหารปวดหัวกันไปตามๆกัน คงต้องหวังรายได้จากตลาดต่างประเทศ และตลาดวิดีโอกันละ อันดับ 8 ขึ้นมาจากอันดับ 9 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หนังพีเรียดตัวเก็งออสการ์ของสังกัด GramercyElizabeth ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 5 รายได้ลดลงแค่ 42% ซึ่งน้อยที่สุดใน top-10 สัปดาห์นี้ได้ไปอีก $1.95M ตอนนี้ได้โรงฉาย 540 โรง เฉลี่ยต่อโรง $3,619 ตอนนี้เก็บไปแล้ว $9.78M ส่วนรายได้ตลาดต่างประเทศกวาดไปกว่า $17M แล้ว อันดับ 9 ร่วงจากอันดับ 7 เป็นหนังสยองขวัญภาคต่อของ Sony, I Still Know What You Did Last Summer เก็บไปได้อีก $1.73M ตัวเลขรวมขณะนี้ $35.9M จากทุนสร้าง $17M คงไปได้ถึง $40-42M ตอนลาโรง Home Fries หนัง romantic comedy ของ Warner Bros. นำโดย Drew Barrymore ร่วงลงมาอันดับ 10 รายได้ร่วงลง 54% ได้ไปอีก $1.72M รวม 12 วันได้ไปแล้ว $7.8M น่าจะทำได้ถึง $15-20M Little Voice หนังของค่าย Miramax ที่เปิดฉายแบบชิมลางแค่ 6 โรง ทำเงินไป $93,722 เฉลี่ยสูงถึง $15,620 สำหรับตลาดโลกขณะนี้ Saving Private Ryan กำลังโกยเงินที่ออสเตรเลีย รายได้ทั่วโลกรวมแล้วคาดว่าจะผ่านหลัก $400M ภายในสัปดาห์นี้, Armageddon กวาดไปแล้ว $435M และคาดว่าจะทำเงินอย่างมหาศาลในญี่ปุ่น ซึ่งคนอึด Bruce Willis เป็นแม่เหล็กชั้นดีที่นั่น, The Truman Show และ The Horse Whisperer ก็ผ่านหลัก $100M ไปแล้วเฉพาะในตลาดนอกอเมริกา และที่จะผ่านหลักร้อยล้านตามมาติดๆก็คือ Mulan,The Mask of Zorro, และ The X Files ส่วนThere's Something About Mary ก็โกยเงินทั่วโลกไปแล้วเกือบ $300M และ Babe: Pig in the City เปิดตัวได้สวยในสิงคโปร์ สุดสัปดาห์หน้า เตรียมพบกับหนังตอนใหม่ของ Star Trek ชื่อตอนว่า Star Trek: Insurrection ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 4-6 ธันวาคม 2541
|
ที่มา : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :