Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(เกาะติดประมูล3G) ฟ้อง ด้วยขอกล่าวหาใหม่!! 40 สว.ของศาล ติดความ(บอร์ดมือถือ)กสทช.มีหน้าที่เท่าใด + vote ติดต่อทีมงาน

ประเด็นหลัก


นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ใช้ในการจัดสรรคลื่นความถี่ และเตรียมออกใบอนญาต 3G แล้วเห็นว่า มาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.เดียวกัน

แต่ที่เป็นปัญหาคือ มาตรา 27(4) กำหนดให้ กทค.มีอำนาจหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องการพิจารณาอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แต่เมื่อมาพิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา 305(1) กลับบัญญัติให้ กทค.มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.เฉพาะการกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งในที่นี้ไม่หมายรวมถึงการให้มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ การที่ กทค.มีมติเมื่อวันที่ 18 ต.ค.55 เห็นชอบผลการประมูล 3G ที่มีการประมูลไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.55 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากศาลมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305(1) ก็จะเป็นผลให้การประมูลที่เกิดขึ้นมีผลเป็นโมฆะทันที

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การยื่นเรื่องให้ตีความข้อกฎหมายถือว่าเป็นอำนาจโดยตรงของผู้ตรวจการแผ่นดิน และยอมรับว่าขณะนี้ กทค.ยังสามารถทบทวนการมีมติรับรองผลการประมูลดังกล่าวได้ และหาก กทค.นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ กสทช.ให้รับรองผลประมูล 3G เสียใหม่ก็จะทำให้การประมูลนั้นถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การประมูลที่เกิดขึ้นแล้วก็เดินหน้าต่อไปได้ แต่จะไม่มีผลให้คำร้องนี้ตกไป เพราะที่เสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาดำเนินการเป็นเรื่องของกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก็จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต





_____________________________________



กลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นเสนอศาล รธน.ตีความอำนาจ กทค.รับรองผลประมูล 3G


รายงานข่าวจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แจ้งว่า กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นหนังสือต่อนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า มาตรา 40 ประกอบมาตรา 27(4) แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305(1) หรือไม่


 
นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ใช้ในการจัดสรรคลื่นความถี่ และเตรียมออกใบอนญาต 3G แล้วเห็นว่า มาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.เดียวกัน

แต่ที่เป็นปัญหาคือ มาตรา 27(4) กำหนดให้ กทค.มีอำนาจหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องการพิจารณาอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แต่เมื่อมาพิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา 305(1) กลับบัญญัติให้ กทค.มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.เฉพาะการกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งในที่นี้ไม่หมายรวมถึงการให้มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ การที่ กทค.มีมติเมื่อวันที่ 18 ต.ค.55 เห็นชอบผลการประมูล 3G ที่มีการประมูลไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.55 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากศาลมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305(1) ก็จะเป็นผลให้การประมูลที่เกิดขึ้นมีผลเป็นโมฆะทันที

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การยื่นเรื่องให้ตีความข้อกฎหมายถือว่าเป็นอำนาจโดยตรงของผู้ตรวจการแผ่นดิน และยอมรับว่าขณะนี้ กทค.ยังสามารถทบทวนการมีมติรับรองผลการประมูลดังกล่าวได้ และหาก กทค.นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ กสทช.ให้รับรองผลประมูล 3G เสียใหม่ก็จะทำให้การประมูลนั้นถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การประมูลที่เกิดขึ้นแล้วก็เดินหน้าต่อไปได้ แต่จะไม่มีผลให้คำร้องนี้ตกไป เพราะที่เสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาดำเนินการเป็นเรื่องของกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก็จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การยื่นเรื่องครั้งนี้เป็นคนละส่วนกับการตรวจสอบการประมูลว่าชอบด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ซึ่งตนเองได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว

ด้านนางผาณิต กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมในวันเดียวกันนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณากรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ฟ้องให้เพิกถอนการประมูล 3G ว่า ทางผู้ตรวจจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ สังคมให้ความสนใจมาก เพราะเป็นเรื่องการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ

อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq03/1543621

______________________________________


ยื่นศาลรธน. ตีความ อำนาจ กทค.รับรองประมูล3จี

ส.ว.ยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาล รธน.ตีความ ก.ม.จัดสรรคลื่น ม.40 ขัด รธน. ม.305 ชี้ กทค.ไม่มีอำนาจรับรองผลการประมูล 3 จี

วันที่ 4 ธ.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เข้ายื่นหนังสือต่อ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาว่ามาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 (4) แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2553 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 305 (1) หรือไม่

โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อกฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือกสทช. ใช้ในการจัดประมูลคลื่นความถี่ และจะออกใบอนญาต 3 จี แล้วเห็นว่า มาตรา 40 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว กำหนดให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 27 ของพ.ร.บ.เดียวกัน โดยที่เป็นปัญหาคือมาตรา 27 (4) ที่กำหนดให้ กทค.มีอำนาจหน้าที่แทน กสทช.ในเรื่องการพิจารณาอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แต่เมื่อมาพิจารณารัฐธรรมนูญมาตรา 305 (1) กลับบัญญัติให้ กทค. มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.เฉพาะการกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งในที่นี้ไม่หมายรวมถึงการให้มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่

ดังนั้นการที่ กทค. มีมติเมื่อวันที่ 18 ต.ค. เห็นชอบผลการประมูล 3 จี ที่มีการประมูลเมื่อวันที่ 16 ต.ค. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากศาลมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 40 ประกอบมาตรา 27 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 305(1) ก็จะเป็นผลให้การจัดประมูลที่เกิดขึ้นเป็นโมฆะทันที

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในครั้งนี้เป็นการยื่นเรื่องให้ตีความข้อกฎหมายถือว่าเป็นอำนาจโดยตรงของผู้ตรวจการแผ่นดิน และยอมรับว่าขณะนี้ กทค.ยังสามารถทบทวนการมีมติรับรองผลการประมูลดังกล่าวได้ และหาก กทค.นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ กสทช.ให้รับรองผลประมูล 3 จีเสียใหม่ ก็จะทำให้การประมูลนั้นถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การประมูลที่เกิดขึ้นแล้วก็เดินหน้าต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ก็จะไม่มีผลให้คำร้องนี้ตกไป เพราะที่เสนอให้ผู้ตรวจฯ พิจารณาดำเนินการเป็นเรื่องของกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก็จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/pol/310851

จากคุณ : So magawn
เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 00:51:53




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com