 |
(เกาะติดประมูล4G) สิ้นปีวางแผนประมูล 4G คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ทันที ( ยากหน่อยเพราะยังมีคนยังมีอยู่ในระบบ )
|
|
ประเด็นหลัก
หลังจากการให้บริการ 3จี กทค.จะหันมาให้ความสนใจการจัดประมูล 4จี (แอลทีอี) บนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ทันที ตามแผนแม่บทของ กสทช. ที่ระบุไว้ว่าจะมีการจัดประมูลขึ้นในปี 2556 ส่วนจะใช้วิธีการประมูลหรือหลักเกณฑ์การประมูลแบบเดิมเช่นเดียวกับ 3จี หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดแต่อย่างใด คาดว่ากรรมการกำหนดยุทธศาสตร์คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะนำเสนอกรอบการดำเนินงานการประมูลคลื่น 4จี ได้ในราวสิ้นเดือนธันวาคมนี้
ผมคิดว่าการประมูล 4จี น่าจะเป็นอะไรที่ยากกว่าการประมูล 3จี แน่ เพราะ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นเปล่าๆ ไม่มีคนใช้งาน แต่ 4จี บนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นที่มีคนใช้งานอยู่แล้ว อีกทั้งยังคงเกี่ยวพันอยู่กับการใช้งานสัญญาสัมปทาน การมีลูกค้าค้างใช้งานอยู่ในระบบ แต่ส่วนหนึ่งเชื่อได้ว่าเมื่อการประมูล 4จี เกิดขึ้นผู้คนจะเข้าใจการประมูลคลื่นความถี่ดีขึ้น
_____________________________________
กสทช.เร่งออกใบอนุญาต "3จีจะเกิดขึ้นใน3-4เดือนนี้"
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
หมายเหตุ - องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางได้มีมติ 4-2 สั่งจำหน่ายคดีหมายเลขดำที่ 2865/2555 กรณีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีจัดการประมูลใบอนุญาตให้บริการ 3จี คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)
คําตัดสินของศาลจะทำให้ กสทช. สามารถเดินหน้าออกใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการได้ หลังจากต้องหยุดรอคำสั่งของศาลเพื่อความโปร่งใสในการทำงาน จากนี้ไปการมี 3จี ใช้ จึงเหมือนการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไทยไปให้ทันต่อการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีโลก อีกทั้งหากมองดูสถานการณ์ในปัจจุบัน ช่องสัญญาณโทรคมนาคม (แบนวิธ) ที่มีให้บริการอยู่ในบ้านเราเริ่มเข้าสู่สถานะที่เรียกได้ว่าวิกฤตเต็มที
การมี 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จึงเหมือนเป็นการขยายถนน 4 เลนที่การจราจรแออัด ด้วยการสร้างทางด่วนโทลล์เวย์ไว้ด้านบน ทำให้การจราจรไหลลื่นขึ้น เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ
ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตจากนี้ไป จึงเหลือแต่ข้อมูลรูปแบบแนวทางการกำหนดข้อตกลงชั่วคราวร่วมกันกับภาคเอกชน ในการกำหนดอัตราราคาขั้นสูงสำหรับค่าใช้บริการ 3จี ให้ได้ในราคาที่ถูกลดลง ตามที่ กทค.เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ที่ 15-20% เพื่อแนบท้ายไปในใบอนุญาตของ 3จี โดยให้สำนักงาน กสทช.เป็นผู้ไปทำการศึกษาแนวทางดังกล่าวมา
นอกจากนี้ องค์ประกอบการพิจารณาการออกใบอนุญาตอื่นๆ ถือได้ว่าทำอย่างครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลสรุปรายงานการตรวจสอบพฤติกรรมการเสนอราคาของคณะทำงานตรวจสอบพฤติกรรมการเสนอราคาของผู้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ หรือใบอนุญาต 3จี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นำโดยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผลสอบเรื่องการฮั้วราคาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
สำหรับการตรวจสอบพฤติกรรมการเสนอราคา เบื้องต้นผลการตรวจสอบของคณะทำงานฯ อย่างเป็นทางการ ที่ส่งมายังสำนักงาน กสทช. ก่อนการส่งมายัง กทค.นั้นระบุว่า ผู้เข้าประมูล 3จี ทั้ง 3 รายประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่พบเรื่องการสมยอมราคาแต่อย่างใด
ในวันที่ 6-7 ธันวาคม จะมีการประชุมบอร์ด กทค. และจะมีการพิจารณาในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับ 3จี โดยเฉพาะการรับผลรายงานเรื่องต่างๆ เกี่ยวการตรวจสอบเรื่องการประมูล 3จี ของหน่วยงานยุติธรรมที่ทำการตรวจสอบต่างๆ เชื่อว่าหากว่าจากนี้ไปไม่มีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงทาง กสทช. จะสามารถดำเนินการส่งมอบใบอนุญาต 3จี ถึงมือผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันวันที่ส่งมอบที่แน่นอนได้ แต่ถึงอย่างไร กสทช.จะเร่งการออกใบอนุญาตให้ได้ก่อนปีใหม่นี้ เพื่อให้เป็นของขวัญในวันปีใหม่ให้แก่คนไทยทุกคน
สำหรับข้อกังวลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการออกใบอนุญาต 3จี คงไม่มีอีกแล้ว เพราะการที่ศาลมีการพิจารณาออกมาเช่นนี้ ถือได้ว่าข้อกล่าวหาเสียหายที่เกิดขึ้นกับ กสทช. เรื่อง 3จี ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากระบวนการที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องผิด การที่มีผู้แย้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการไม่ชอบใจทั้งสิ้น ทั้งที่การใช้ดุลพินิจในการออกกฎเกณฑ์การประมูลต่างๆ เกิดขึ้นจากการใช้ดุลพินิจของผู้เชี่ยวชาญแทบทั้งสิ้น ส่วนการตรวจสอบที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น่าจะไม่มีผลต่อการให้ใบอนุญาตแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล ผมไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมา กสทช. และ กทค.เอง ไม่ได้ทำอะไรผิด
ภายหลังการรับมอบใบอนุญาตให้แก่ผู้ชนะการประมูล ผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ต้องเร่งดำเนินการตามประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต้องดำเนินการตามกำหนดที่ระบุไว้ในประกาศทันที ที่ระบุไว้ว่าการวางโครงข่ายเพื่อเปิดใช้บริการให้แก่ภาคประชาชน ต้องวางให้ครอบคลุมการเข้าถึงของประชากรไทย 50% ในระยะเวลา 2 ปี และครอบคลุมการเข้าถึงของประชากรไทย 80% ในระยะเวลา 4 ปี
แต่จุดนี้ผมเชื่อว่าการให้บริการ 3จี ในหัวเมืองใหญ่จะเกิดขึ้นในระยะเวลา 3-4 เดือนต่อจากนี้ได้แน่นอน อีกทั้งการขยายโครงข่ายจะเร็วขึ้นกว่าที่กำหนดไว้ 50% ใน 2 ปี และ 80% ใน 4 ปี รวมไปถึงการเข้าถึงของประชากรจะมากกว่า 80% อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายต้องเร่งรีบแข่งขันกันวางโครงข่าย เพื่อทำตลาดชิงลูกค้ากันโดยเร็วที่สุด
หลังจากการให้บริการ 3จี กทค.จะหันมาให้ความสนใจการจัดประมูล 4จี (แอลทีอี) บนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ทันที ตามแผนแม่บทของ กสทช. ที่ระบุไว้ว่าจะมีการจัดประมูลขึ้นในปี 2556 ส่วนจะใช้วิธีการประมูลหรือหลักเกณฑ์การประมูลแบบเดิมเช่นเดียวกับ 3จี หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดแต่อย่างใด คาดว่ากรรมการกำหนดยุทธศาสตร์คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะนำเสนอกรอบการดำเนินงานการประมูลคลื่น 4จี ได้ในราวสิ้นเดือนธันวาคมนี้
ผมคิดว่าการประมูล 4จี น่าจะเป็นอะไรที่ยากกว่าการประมูล 3จี แน่ เพราะ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นเปล่าๆ ไม่มีคนใช้งาน แต่ 4จี บนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นที่มีคนใช้งานอยู่แล้ว อีกทั้งยังคงเกี่ยวพันอยู่กับการใช้งานสัญญาสัมปทาน การมีลูกค้าค้างใช้งานอยู่ในระบบ แต่ส่วนหนึ่งเชื่อได้ว่าเมื่อการประมูล 4จี เกิดขึ้นผู้คนจะเข้าใจการประมูลคลื่นความถี่ดีขึ้น
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354676008&grpid=01&catid=&subcatid=
| จากคุณ |
:
So magawn  
|
| เขียนเมื่อ |
:
วันพ่อแห่งชาติ 55 21:33:47
|
|
|
| |
