 |
ลูกค้ารายเดือน Blackberry ลดลงทั่วโลกจาก 80 ล้านคนเหลือ 79 ล้านคน // HTC เดิดกลยุทธ ยกเลิกการซอยรุ่น
|
|
ประเด็นหลัก
Research In Motion หรือริม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2012 ยอมรับว่าฐานผู้ใช้แบล็กเบอรี่หรือ BlackBerry subscriber ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลดลงจาก 80 ล้านคนเหลือ 79 ล้านคน ส่งให้บริษัทขาดทุนมากกว่า 114 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นการติดตัวแดงในระดับที่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์วอลสตรีทตั้งไว้ ขณะที่นักลงทุนยังมั่นใจและมูลค่าหุ้นในตลาดยังเพิ่มต่อเนื่อง
ริมประกาศตัวเลขขาดทุนสุทธิ 114 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท เฉลี่ยแล้วเท่ากับขาดทุน 0.22 เหรียญต่อหุ้น บนรายรับรวมตลอด 3 เดือน 2.7 พันล้านเหรียญ (ราว 8.3 หมื่นล้านบาท) ทั้งหมดนี้ถือว่าริมเติบโตในระดับที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งมองว่าริมจะขาดทุนหนักถึง 0.36 เหรียญต่อหุ้น บนรายรับรวมที่น้อยกว่า 2.66 พันล้านเหรียญ
Blackberry 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่เชื่อว่าจะสามารถต่อลมหายใจให้บีบีกลับมายิ่งใหญ่ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลในแง่บวก 2 จุดที่ได้รับความสนใจในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ นั่นคือริมระบุว่าสามารถจัดส่งแท็บเล็ต BlackBerry Playbook ได้ถึง 255,000 เครื่อง ถือว่าเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ส่วนอีกจุดคือฐานะทางการเงินที่ริมยังมีกระแสเงินหมุนเวียนมากขึ้น 600 ล้านเหรียญ รวมมูลค่า 2.9 พันล้านเหรียญ สะท้อนภาพความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากนักลงทุน
HTC
นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวในตลาดแท็บเล็ตแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้มีกระแสข่าวมาจากฝั่งดิจิไทม์ระบุว่า เอชทีซีกำลังจะเริ่มดำเนินการนโยบายที่เคยให้ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2012 ว่าจะทำการยกเลิกการซอยรุ่น แล้วหันมาเน้นหนักสมาร์ทโฟนเฉพาะรุ่นไปเลย
ถือว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจเลยทีเดียว ภายหลังจากที่เอชทีซีประกาศว่าพร้อมเดินหน้าตามนโยบายที่เคยให้ไว้ในเรื่องของการซอยรุ่นย่อย แล้วหันมาเน้นหนักที่สมาร์ทโฟนที่อาจแบ่งเป็นรุ่นไฮเอนด์ มิดเอนด์ และโลว์เอนด์ ไม่มีการแตกรุ่น
โดยสาเหตุที่ทำให้เอชทีซีหันกลับมาทบทวนนโยบายเดิมนั้นเป็นเพราะว่า ผลประกอบการในระยะหลังของเอชทีซีกำลังดิ่งลงอย่างน่าใจหาย แม้ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมีรายงานว่ายอดขายค่อยๆ กระเตื้องขึ้นจากการมาของสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟน 8 อย่าง 8X และ 8S
จุดนี้ทำให้เอชทีซีมองว่าควรที่จะลดการเปิดตัวสมาร์ทโฟนให้น้อยเพื่อลดการสั่งซื้อชิ้นส่วน พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศว่าจะลดยอดการเติบโตไตรมาสแรกของปีหน้าลงเหลือเพียง 10-15%
นอกเหนือจากนี้ อีกปัญหาหนึ่งที่เอชทีซีกำลังเผชิญ นั่นคือ การเข้ามาบุกตลาดของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากประเทศจีน ที่สามารถทำราคาได้ถูกกว่า ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเอชทีซีกลายเป็นสินค้าราคาแพงไปโดยทันที
______________________________________
RIM ขาดทุนยับ-ฐานผู้ใช้บีบีลดลง แต่หุ้นยังพุ่งต่อเนื่อง
ทอร์สเทน ไฮนส์ (Thorsten Heins) ซีอีโอริมยืนยันระหว่างการประกาศผลประกอบการบริษัทว่าริมจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคมนี้
Research In Motion หรือริม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2012 ยอมรับว่าฐานผู้ใช้แบล็กเบอรี่หรือ BlackBerry subscriber ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลดลงจาก 80 ล้านคนเหลือ 79 ล้านคน ส่งให้บริษัทขาดทุนมากกว่า 114 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นการติดตัวแดงในระดับที่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์วอลสตรีทตั้งไว้ ขณะที่นักลงทุนยังมั่นใจและมูลค่าหุ้นในตลาดยังเพิ่มต่อเนื่อง
ริมประกาศตัวเลขขาดทุนสุทธิ 114 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท เฉลี่ยแล้วเท่ากับขาดทุน 0.22 เหรียญต่อหุ้น บนรายรับรวมตลอด 3 เดือน 2.7 พันล้านเหรียญ (ราว 8.3 หมื่นล้านบาท) ทั้งหมดนี้ถือว่าริมเติบโตในระดับที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งมองว่าริมจะขาดทุนหนักถึง 0.36 เหรียญต่อหุ้น บนรายรับรวมที่น้อยกว่า 2.66 พันล้านเหรียญ
จุดที่น่าเป็นห่วงของบีบีคือยอดจำหน่าย ริมระบุว่าสามารถจัดส่งแบล็กเบอรี่เพื่อจำหน่ายเพียง 6.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าลดลงมากกว่าครึ่ง (51%) เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่สำคัญ จำนวนฐานผู้ใช้แบล็กเบอรี่ทั่วโลกในขณะนี้ยังลดลงเหลือ 79 ล้านคน (จากเดิม 80 ล้านคน) จุดนี้เมื่อพิจารณาร่วมกับยอดจำหน่ายบีบีในไตรมาสนี้ จะพบว่าผู้ใช้บีบีรายเดิมตัดสินใจเลิกใช้งานแบล็กเบอรี่จำนวนมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้ยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 ล้านเครื่องไม่สามารถชดเชยกลุ่มลูกค้าบีบีที่หายไปได้
ในมุมตัวเลขยอดขายรวม 2.7 พันล้านเหรียญ แม้ว่าจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ก็ยังสะท้อนว่าริมมียอดขายลดลงถึง 47% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
Blackberry 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่เชื่อว่าจะสามารถต่อลมหายใจให้บีบีกลับมายิ่งใหญ่ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลในแง่บวก 2 จุดที่ได้รับความสนใจในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ นั่นคือริมระบุว่าสามารถจัดส่งแท็บเล็ต BlackBerry Playbook ได้ถึง 255,000 เครื่อง ถือว่าเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ส่วนอีกจุดคือฐานะทางการเงินที่ริมยังมีกระแสเงินหมุนเวียนมากขึ้น 600 ล้านเหรียญ รวมมูลค่า 2.9 พันล้านเหรียญ สะท้อนภาพความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากนักลงทุน
ความมั่นใจในริมของนักลงทุนนั้นทวีรัศมีแรงกล้าต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมูลค่าหุ้นริมนั้นเพิ่มขึ้นจาก 6 เหรียญต่อหุ้นในช่วงเดือนกันยายน มาปิดที่ 14 เหรียญต่อหุ้นในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จุดนี้เป็นผลจากเดิมพัน Blackberry 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ริมจะเปิดตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2013 ซึ่งคาดว่าจะสามารถต่อลมหายใจให้บีบีกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ทอร์สเทน ไฮนส์ (Thorsten Heins) ซีอีโอริมยืนยันระหว่างการประกาศผลประกอบการบริษัทว่าริมจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคม ก่อนจะเปิดจำหน่ายในตลาดโลกหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะทำให้ริมกลับมาทรงอิทธิพลอีกครั้งในระยะยาว แม้จะมีแนวโน้มว่าผลิตภัณฑ์แบล็กเบอรี่ที่วางจำหน่ายในปัจจุบันจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการใหม่ได้ก็ตาม
ซีอีโอริมให้ข้อมูลว่าอุปกรณ์ BlackBerry 10 ถูกส่งให้โอเปอเรเตอร์ร่วมทดสอบแล้วกว่า 150 ราย พร้อมกับบริการ BlackBerry Enterprise Service 10 ที่มีองค์กรร่วมทดสอบแล้วกว่า 120 แห่ง
หลังการประกาศผลประกอบการ มูลค่าหุ้นริมเพิ่มขึ้นอีก 7% สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อริมอย่างเต็มเปี่ยม
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154934
____________________________________
เอชทีซีพร้อมลุยแท็บเล็ตวินโดวส์-ยกเลิกซอยรุ่นสมาร์ทโฟน
รายงานจากสื่อต่างประเทศตีข่าว เอชทีซีมีแผนลุยตลาดแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 รวดเดียว 2 รุ่น แบ่งเป็นขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว และ 12 นิ้ว คาดค่าตัวไม่เกิน 1,000 เหรียญ ด้านตลาดสมาร์ทโฟนประกาศยินดียกเลิกซอยรุ่น เน้นหนักเฉพาะรุ่น
รายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ในปีหน้าปี 2013 เอชทีซีมีแผนที่จะลงทุนในตลาดแท็บเล็ตอีกครั้ง หลังจากที่เคยพลาดท่าตกม้าตายมาแล้วครั้งหนึ่งกับการทำตลาดแท็บเล็ต ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่คราวนี้มาใหม่กับการลุยตลาดแท็บเล็ตวินโดวส์โฟน 8 โดยจะเลือกรุ่น ARM ทำตลาด
โดยแท็บเล็ตของเอชทีซีนี้จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่ แท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ARM ขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว และอีกหนึ่งรุ่นเป็นขนาด 7 นิ้ว ซึ่งในรุ่น 7 นิ้วนั้น รายงานระบุด้วยว่าอาจมาพร้อมกับความสามารถในการโทร.ออก-รับสายได้
ทั้งนี้ ถ้าหากเอชทีซีนำแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ขนาดหน้าจอ 7 นิ้วมาวางจำหน่ายจริง จะทำให้เอชทีซีกลายเป็นแบรนด์ผู้ผลิตแบรนด์แรกที่สามารถผลิตแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดมาตรฐาน 10 นิ้ว ไปโดยปริยาย และนั่นน่าจะทำให้ตลาดแท็บเล็ต 7 นิ้วยิ่งทวีความน่าสนใจมากขึ้น ภายหลังจากที่ตลาดดังกล่าวนี้มีพี่เบิ้มแห่งวงการไอทีร่วมจับจองความเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น เน็กซัส 7 จากเอซุส ไอแพดมินิ ของแอปเปิล คินเดิลไฟร์ แท็บเล็ตที่อเมซอนภาคภูมิใจ รวมไปถึงบรรดาแอนดรอยด์แท็บเล็ตจากผู้ผลิตรายอื่นทั้งอินเตอร์แบรนด์ และเฮาส์แบรนด์
อนึ่ง ความเป็นไปได้ที่แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นจะพร้อมออกวางจำหน่ายคาดว่าอย่างช้าที่สุดน่าจะเป็นไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 ส่วนราคาค่าตัวเครื่องเชื่อว่าจะไม่เกิน 1,000 เหรียญ
อย่างไรก็ตาม ข่าวการผลิตแท็บเล็ตของเอชทีซีในยามนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทั้งฝั่งของเอชทีซี และไมโครซอฟท์แต่อย่างใด
สำหรับเอชทีซี ถือเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ที่มีความสัมพันธ์ร่วมกันกับไมโครซอฟท์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไมโครซอฟท์ยังทำตลาดมือถือด้วยวินโดวส์โมบายล์ ก่อนที่จะขยับรีแบรนด์ชื่อใหม่มาเป็นวินโดวส์โฟน 8 ซึ่งยังได้รับความร่วมมือกับเอชทีซีเป็นอย่างดี จนกระทั่งมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดยามนี้ถึง 2 รุ่น ได้แก่ Windows Phone 8X และ 8S by HTC
เอชทีซีพร้อมยกเลิกซอยรุ่นย่อย
นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวในตลาดแท็บเล็ตแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้มีกระแสข่าวมาจากฝั่งดิจิไทม์ระบุว่า เอชทีซีกำลังจะเริ่มดำเนินการนโยบายที่เคยให้ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2012 ว่าจะทำการยกเลิกการซอยรุ่น แล้วหันมาเน้นหนักสมาร์ทโฟนเฉพาะรุ่นไปเลย
ถือว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจเลยทีเดียว ภายหลังจากที่เอชทีซีประกาศว่าพร้อมเดินหน้าตามนโยบายที่เคยให้ไว้ในเรื่องของการซอยรุ่นย่อย แล้วหันมาเน้นหนักที่สมาร์ทโฟนที่อาจแบ่งเป็นรุ่นไฮเอนด์ มิดเอนด์ และโลว์เอนด์ ไม่มีการแตกรุ่น
โดยสาเหตุที่ทำให้เอชทีซีหันกลับมาทบทวนนโยบายเดิมนั้นเป็นเพราะว่า ผลประกอบการในระยะหลังของเอชทีซีกำลังดิ่งลงอย่างน่าใจหาย แม้ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมีรายงานว่ายอดขายค่อยๆ กระเตื้องขึ้นจากการมาของสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟน 8 อย่าง 8X และ 8S
จุดนี้ทำให้เอชทีซีมองว่าควรที่จะลดการเปิดตัวสมาร์ทโฟนให้น้อยเพื่อลดการสั่งซื้อชิ้นส่วน พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศว่าจะลดยอดการเติบโตไตรมาสแรกของปีหน้าลงเหลือเพียง 10-15%
นอกเหนือจากนี้ อีกปัญหาหนึ่งที่เอชทีซีกำลังเผชิญ นั่นคือ การเข้ามาบุกตลาดของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากประเทศจีน ที่สามารถทำราคาได้ถูกกว่า ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเอชทีซีกลายเป็นสินค้าราคาแพงไปโดยทันที
โดยในปีหน้าเอชทีซีจะนำสมาร์ทโฟนตัวท็อปทำตลาดทั่วโลก อย่าง HTC Butterfly ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งกระแสของผู้ที่ได้ทดลองใช้รุ่นนี้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าประทับใจ
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154799
| จากคุณ |
:
So magawn  
|
| เขียนเมื่อ |
:
21 ธ.ค. 55 23:14:44
|
|
|
| |
