ความคิดเห็นที่ 1 คิดง่าย ๆ เพื่อนที่ไหน จะหากินกับเพื่อน ธนาคารให้ดอกเบี้ย เอาเงินเราไปลงทุน ธนาคารจ้างพนักงานมาทำงาน จัดตั้งสถานประกอบการ มีค่าใช้จ่าย หากได้แค่ค่าธรรมเนียมนั่นนิดนี่หน่อย ไม่เท่าไหร่ คงทำกำไรไม่ได้มากมาย..เป็นธรรมดา เค้าย่อมใช้ช่องทางทางธุรกิจ เพื่อทำรายได้เข้าองค์กร ไม่งั้นเค้าจะทำธุรกิจธนาคารทำไม... ^ ^ จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:05:12

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าธนาคาร สมัยนี้ ไม่ใช่ธนาคารแล้วล่ะ ทั้งกองทุน ทั้งประกัน ทั้งบัตรเครดิต จากคุณ : P-Piya เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:08:17

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ใช่ทั้งเพื่อนและไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม ต่างฝ่ายต่างทำธุรกิจครับ เป็นคู่ค้า ถ้าไม่มีธนาคาร เศรษฐกิจก็เดินไปไม่ได้ จากคุณ : ช า ติ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:11:23

ความคิดเห็นที่ 4 การทำธุรกิจธนาคารมีกฏหมายควบคุมอยู่ จะเอาเงินชาวบ้านมาทำธุรกิจต่างๆนอกจากที่ได้รับอนุญาตไม่ได้ ขนาดบ้านหรือคอนโดที่เป็น NPA ยังเอามาปล่อยเช่าหารายได้ไม่ได้เลย กฏหมายไม่อนุญาต จากคุณ : ช า ติ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:14:28

ความคิดเห็นที่ 5 "การกู้เงินจากธนาคาร เหมือนจะได้รับโอกาส แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าธนาคารจะหักหลังเราเมื่อไหร่ ถ้าธุรกิจนั้นสร้างกำไรได้ดี ธนาคารอาจจะทำซะเอง ในเมื่อความพร้อมด้านเงินทุนมีอยู่พร้อม" คำเหล่านี้พูดเกินจริงไปเยอะครับ ผมไม่เห็นแบงค์จะไปตั้งบ.พัฒนาอสังหาเลย ทั้งที่หลายๆบ.ก็กำไรดีมาก คอนโดฝั่งธนตอนนี้ปาไป150k-180k/ตร.ม. หรือตั้งบ.แปรรูปอาหารส่งออกที่กำไรดีเช่นกัน หรือธุรกิจให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง "ให้ดอกเบี้ยน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ เก็บเงินในธนาคาร รับดอกเบี้ยแล้ว มูลค่าลดลงด้วยช้ำเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ" ธนาคารมีหน้าที่เก็บรักษา มิใช่บริหารเงินให้คุณ  ฉนั้นการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินเฟ้อมิใช่ความผิดของธนาคาร เป็นหน้าที่ของคุณต้องบริหารเงินของตัวเอง ถามจริงๆเถอะ ในโลกนี้มีอะไรไม่เสี่ยง ที่ผมเห็นก็มีแค่ความตายและภาษีเท่านั้นแหละ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:23:23

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยก่อน  แปลงไหนสวยสวยยึดเลยยึดอย่างเดียว สมัยนี้ก็เหมือนเดิม           พอเราไม่ต้องการ   มาหาเรายังกับญาติ           พอเราสะดุด  ต้องการขยายวงเงิน   กลับเร่งยึดโอดีคืน ปล. อย่าให้แบงค์รู้ว่าเราอ่อนแอเด็ดขาด ปล.2  ที่แปลกคือ  หากินกับเงินประกัน ประมาณว่า  ไม่ทำประกันสองฉบับไม่ให้กู้ จากคุณ : แมกดี เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:25:18

ความคิดเห็นที่ 7 คนโบราณเขาพูดกันว่า แบงค์คือคนที่ยื่นร่มให้เมื่อฝนตกปรอยๆ และกระชากกลับเมื่อฝนตกหนัก   จริงเท็จไม่รู้ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 15:01:04

ความคิดเห็นที่ 8 อกเขาอกเราใจเขาใจเรา  เราอยู่ได้เขาก็อยู่ได้ ไหนจะต้องดูแลเงินของเราให้ปลอดภัยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง  เพิ่มเติมธุรกรรมนวัตรกรรมใหม่ขยายสาขา จ้างพนักงานแล้วไหนจะดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายให้เราอีก   ทุกอย่างต้องลงทุนทั้งนั้นแล้วจะไห้เขาหาเงินที่ไหนมาลงทุนละฉนั้นคอนเซปท์  เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน  ก้าวไปด้วยกัน  เราจะเดินเคียงข้างคุณ น่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  ส่วนเรื่องเงินเฟ้อแบงค์ไม่ได้เป็นคนทำ  ถ้าเราคิดว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำ  แบงค์เค้าก็ถูกกระทำเช่นกันการแก้เงินเฟ้อน่าจะไม่ใช่หน้าที่แบงค์ครับ จากคุณ : สัมภเวสี (SomePrivacy) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 15:11:00

ความคิดเห็นที่ 9 มันเป็นธุรกิจครับที่ต้องแสวงหากำไร ถ้าไม่หากำไรจะทำ ทำไม เหมือนพวกที่ทำงานแล้วไม่ได้เงินเดือนแล้วจะทำ ทำไม เพราะฉะนั้นในโลกของธุรกิจเค้าจึงถือว่า "ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร ผลประโยชน์เท่านั้นที่นิรันดร" เข้าใจ๋ จากคุณ : alien1200 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 18:28:33

ความคิดเห็นที่ 10 เราเป็นลูกค้า จบ.. จากคุณ : Chocolate~Jelly เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:45:37

ความคิดเห็นที่ 11 ธนาคารก็เป็นธุรกิจที่แสวงผลกำไร ในฐานะที่เราเป็นผู้ติดต่อกับธนาคาร เราต้องรู้ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากธนาคารได้อย่างไร ไม่ให้ธนาคารมาหาประโยชน์จากเราฝ่ายเดียว เรื่องธนาคารจะทำธุรกิจแข่งกับเรานั้น ตรงนี้คงยากครับ กฏหมายสถาบันการเงินมีการควบคุมตรงนี้ไว้อยู่แล้ว ยิ่งเรื่องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะมีกฏหมายห้ามไว้เด็ดขาด เรื่องการขายประกันของธนาคารนั้น ก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ อย่างที่ผมบอก ถ้าเรารู้จักใช้ประโยชน์จากธนาคาร แต่ไม่ให้ธนาคารเอาเปรียบเรามากไป เช่นการขายประกันเราก็ปฏิเสธไป บางคนยอมซื้อประกันเพื่อเอา Soft Loan ถึงเวลาได้เงินกู้มาแล้วก็รีบไปกรมธรรม์ไปเวนคืนก่อน 15 วัน นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนที่รู้จักใช้ธนาคารให้เป็นประโยชน์เหมือนกัน จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:39:21

ความคิดเห็นที่ 12 ธนาคารเค้ามี พรบ.สถาบันการเงินควบคุมอยู่จำทำอะไรเองก็ไม่ได้ครับ และคงไม่ใช่ว่าอยากได้ที่ดิบแปลงไหนก็จะยึดครับ กว่าแบงค์จะยึดที่ซักแปลง ต้องฟ้องร้องให้ศาลสั่ง กว่าจะให้ยึดทรัพย์ได้ใช้เวลากี่ปี แล้วยึดเลยก็ไม่ได้ ต้องเอาไปให้กรมบังคับคดีขายทอดตลาด แล้วไปประมูลแข่งกันอีก ระหว่านั้นก็ต้องกันสำรองอีกเยอะ สรุปว่า แบงค์ไม่อยากได้ที่หรอกครับ ขอให้คนที่กู้ผ่อนชำระตามสัญญาก็พอแล้วครับ จากคุณ : คุณหนูตื่นสาย เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 21:31:48