ความคิดเห็นที่ 1 อ่านจากหนังสือชี้ชวน ครับ  เขาต้องลงรายละเอียดไว้ หากไม่คิดอะไร มาก ว่า 5ปี ต่อไป ไม่มาฆ่ากันตายกลางถนนอีก ปีละ 10% ได้แน่ๆ ไม่รวม ภาษี ที่ประหยัดแต่ละปี จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:20:57

ความคิดเห็นที่ 2 หากไม่นับรวมภาษี ก็ผลตอบแทนจากการบริหารงานหน่วยลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ซื้อหน่วยละ สิบบาท ตอนขายขายหน่วยละ ยี่สิบบาท กำไรเห็น ๆ ถือว่าแค่สามปี (ห้าปีปฎิทิน) ถ้าหุ้นตกหรือหน่วยลงทุนที่ซื้อไว้ขาดทุน ถือต่อไปได้เรื่อย ๆ ค่อยขายเมื่อมีกำไร จากคุณ : น้ำค้างเดือนเก้า เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:25:40

ความคิดเห็นที่ 3 ผลตอบแทนมันจะมี 2 อย่างครับ 1. มูลค่าหน่วยลงทุนที่สูงขึ้น จะได้เมื่อคุณขายใน 5 ปีข้างหน้า เช่น ปีนี้หน่วยละ 10 บาท อีก 5 ปีหน่วยละ 15 บาท ถือว่าได้กำไร (ข้อนี้ อาจขาดขุนก็ได้ครับ ถ้า 5 ปีข้างหน้ามูลค่าหน่วยลดลงเนื่องจากหุ้นตก) 2. ปันผล มีเฉพาะบางกองทุนที่ระบุว่า "จ่ายปันผล" เขามักจะจ่ายเป็นรายปีครับ แนะนำว่า ในแต่ละปี ทยอยซื้อเฉลี่ยครับ เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องราคาหุ้นที่ผันผวน เช่น ปีนี้ตั้งใจจะซื้อ LTF 60,000 บาท ก็ทยอยซื้อเดือนละ 5,000 เลยครับ อย่าพยายามซื้อด้วยเงินก้อนใหญ่ทีเดียว อีกข้อ LTF เป็นกองทุนประเภทหุ้น อาศัยฝีมือผู้บริหารกองทุนสูงกว่ากองทุนประเภทนะครับ ให้ดูผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละกองได้ที่ http://siamchart.com/fund-compare/LTF เปรียบเทียบว่าเราควรซื้อที่ไหนดีครับ จากคุณ : ++HotDog++ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 00:18:03

ความคิดเห็นที่ 4 ได้ของแถมตามโปรโมชั่น จากคุณ : หอมมาก เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 08:51:22

ความคิดเห็นที่ 5 ได้ลดหย่อน ได้เงินเพิ่มถ้าราคามันขึ้นมากกว่าตอนซื้อ ได้ของแถม + ได้กองทุนออมทรัพย์เพิ่ม ได้สลับกองทุนเวลาหุ้นลง/ขึ้น ได้เก็บเงินออม ซื้อไว้เถอะครับ ความเสี่ยงหุ้นตก ไม่ขายตอนมันราคาต่ำก็ได้นี่ พอครบถือต่อไปก็ได้ ผมใช้วิธีซื้อปีละแสน ผ่านไป 3 ปี เข้าปีที่ 4 ก็สามารถขายได้ เอาเงินนั้นมาซื้อใหม่ เท่ากะลงทุน 4 แสน แต่ได้ลดหย่อนปีละ 10-37% เลย จากคุณ : Calibra เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 09:40:02