ราคา'วัสดุก่อสร้าง-ที่ดิน'พุ่ง 2เส้นมอร์เตอร์เวย์
|
|
อสังหาริมทรัพย์ วันที่ 27 ธันวาคม 2555 07:30 โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วัสดุก่อสร้าง-ที่ดินราคาพุ่ง ดันวงเงินลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทางแตะ 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ ว่า ปัจจุบันกรมฯอยู่ระหว่างเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 68,780 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 7,200 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 61,230 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน 350 ล้านบาท และ2.เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 45,506 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 4,851 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 40,495 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 160 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอขอจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและพิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม คาดว่าจะประกวดราคาได้ภายในปี 2556
นอกจากนั้น กรมฯยังอยู่ระหว่างการทบทวนวงเงินค่าก่อสร้าง เพราะวงเงินเดิมคำนวณไว้เมื่อ 4-5 ปีก่อน แต่ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดิน และราคาน้ำมันในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องปรับวงเงินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เบื้องต้นคาดว่าวงเงินค่าก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา จะอยู่ที่ 8-9 หมื่นล้านบาท และเส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรีน่าจะอยู่ที่ 5-6 หมื่นล้านบาท
“รัฐมนตรีสั่งให้กรมฯเสนอรูปแบบการลงทุนและให้ความเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนในโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เพื่อเป็นการเร่งรัด เบื้องต้นรูปแบบการลงทุนจะมีทั้งกรณีที่ใช้เงินรัฐบาลทั้งหมด หรือรัฐร่วมเอกชน หรือเอกชนทั้งหมด”
ด้านพลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปล่อยขบวนรถในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 และมอบนโยบายให้ผู้บริการกรมทางหลวง วานนี้ (26 ธ.ค.) ว่า ได้กำชับให้กรมฯเตรียมพัฒนาถนนทางหลวงรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งมีประเด็นที่ต้องศึกษาเกี่ยวกับน้ำหนักรถบรรทุก เพราะไทยและประเทศเพื่อนบ้านกำหนดน้ำหนักของรถบรรทุกต่างกัน โดยไทยอนุญาตให้รถพ่วงบรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 58 ตัน ขณะที่ต่างประเทศกำหนดน้ำหนักบรรทุก 38 ตัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกรมฯอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของน้ำหนักบรรทุก คาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือน ซึ่งต้องหารือร่วมกับประเทศอื่นด้วย เพราะจะมีผลกระทบหากรถบรรทุกแล่นผ่าน 2 ประเทศ เมื่อการกำหนดน้ำหนักบรรทุกไม่เท่ากันจะต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้าหรือไม่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน
ด้านนายชัชวาลย์ กล่าวว่า เดิมกรมฯกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกพ่วงต้องไม่เกิน 38 ตัน ขณะที่รถบรรทุก 10 ล้อ น้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 21 ตัน แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการขอให้ยกเว้น จึงอนุโลมให้ใช้น้ำหนักรถบรรทุกพ่วงที่ 58 ตัน และขอให้ปรับลดลงเป็น 53 ตัน และ 38 ตัน และกำหนดให้น้ำหนักรถบรรทุกพ่วงอยู่ที่ 53 ตันเป็นเวลา 1 ปีตั้งแต่ปี 2556 เพื่อรอผลศึกษาน้ำหนักบรรทุกที่เหมาะสม เพราะน้ำหนักบรรทุกจะมีผลต่อการชำรุดของถนน ขณะที่ผู้ประกอบการต้องการบรรทุกน้ำหนักมากๆ
“การกำหนดน้ำหนักบรรทุกต้องเป็นสากลเหมือนกันที่ 38 ตันนั้น เป็นน้ำหนักเดิมที่กรมฯกำหนดไว้ แต่ผู้ประกอบการไม่เชื่อ และขอให้จ้างมหาวิทยาลัยศึกษา ซึ่งกรมฯพร้อมดำเนินการและขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา โดยจะนำผลศึกษาดังกล่าวมาประกอบกับข้อกำหนดในการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนเพื่อกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกต่อไป”
ส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 นั้น กรมฯได้กำหนดมาตรการรวม 7 ข้อ คือ 1.ทางดีพร้อมใช้ ปลอดภัย ไร้จุดเสี่ยง โดยดูแลบำรุงรักษาทางหลวงให้อยู่ในสภาพดี ประสานตำรวจทางหลวงเพื่อเตรียมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร 2.ป้ายเด่นชัด ไม่พลัด ไม่หลง จัดทำความสะอาดป้าย และทำป้ายทางเลี่ยงทางลัดทุกระยะ 3-5 กม.
3.ไฟฟ้าส่องสว่าง เดินทางปลอดภัย สัญญาณไฟจราจรเห็นชัด อุบัติเหตุลดลง 4.จุดบริการทั่วไทย พักรถก่อนไป เดินทางใกล้ไกลปลอดภัยทุกเส้นทาง โดยมีจุดให้บริการทั่วไทยรวม 198 แห่ง 5.บุคลากรพร้อมให้บริการผู้เดินทางตลอด 24 ชั่วโมง จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรอุปกรณ์พร้อมให้บริการ รวมทั้งรายงานสภาพการจราจร ณ เวลาปัจจุบัน 6.โทร 1586 สายด่วนคู่ใจเพื่อนเดินทางพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง และ7.ใช้มอเตอร์เวย์ฟรี ของขวัญปีใหม่จากใจกรมทางหลวง
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ธ.ค. 55 08:14:45
|
|
|
|