ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าหมายถึงกองทุนทั่วไป  เขาก็ต้องขายคืนและจ่ายเงินตามที่ลูกค้าสั่ง เท่าที่เราเคยคุยกับมาร์  เขาเก็บเงินไว้มากๆ อย่างนั้นไม่ได้ เพราะเวลาตั้งกองทุน เขาต้องทำนโยบายและมีกำหนดว่าจะต้องถูกเงินไว้ไม่เกินกี่เปอร์เซนต์ของกองทุน ถ้าถือเกินก็ผิดนโยบายค่ะ  และอีกอย่างหนึ่งเวลาคิดมูลค่าหน่วยมันก็คิดตามทรัพย์สิน ที่ถือ  เงินสดหรือเทียบเท่าเนี่ยมันไม่สามารถให้ดอกผลมากมายเท่ากับตราสารอย่างอื่นค่ะ การเพิ่มของ NAV ก็จะน้อย  ผลตอบแทนไม่ดี  ลูกค้าหนีหมดค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 16:35:23

ความคิดเห็นที่ 2 marketcap ตลาด 10 ล้านๆ  (สงสัยตอนนี้เกินแล้ว) 1% ก็ปาเข้าไปเกิน 1 แสนล้านแล้ว เงินแค่หลักหมื่นล้าน  เศษทศนิยมเองค่ะ   มีเงินไหลเข้ากองทุนปีนี้ 2.5 แสนล้าน  ยังไม่รวมของปีก่อนๆ NAV กองทุนทศพลของบัวหลวง ที่ไต่ขึ้นจากเกือบ 11 บาทเป็น 32 หรือขึ้นมาราว 3 เท่า กองทุนรวมของไทยทุกกองทุนในประเทศ  สัก 6.6 แสนล้านก็พอ ตอนนี้  NAV  มิปาเข้าไปราว 1.8 ล้านๆบาทรึ ??     กองทุน ยังเหลือหุ้นให้ขายเพียบค่ะ  แต่ไม่สามารถขายได้หมด เพราะติดล๊อค  ต้องถือเงินสดไม่เกิน 15% จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 17:59:57

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องขายออกครับ แต่จะตัดสินใจขายตัวไหน อะไรยังไง ขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุนครับ เพราะ NAV ที่เกิดขึ้น เกิดจากทรัพย์สินทั้งหมด และการถือเงินสด ไม่ได้ถือแล้วงอกเองได้ หาก NAV มันขึ้น เนื่องจากการเอาไปลงทุนในหุ้น เวลาลูกค้าต้องการถอนเงินออก ก็ต้องขายหุ้นออกไปด้วย ไม่เช่นนั้น จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ตามที่ได้ประกาศ และคำนวณใน NAV จากคุณ : mrtech เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:04:53